ธุรกิจ Peer-to-Peer Lending(P2P Lending) เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน(Fintech) จัดอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการฟินเทคแบบกลุ่มผู้นำพลิกผัน (Disruptor) เป็นธุรกิจให้บริการกู้ยืมระหว่างบุคคลต่อบุคคลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
โหวว ทำไมฟังดูยากจัง
เอาง่ายๆ ก็ได้ P2P Lending เป็นกลุ่มธุรกิจที่ให้กู้ยืมเงินคล้ายๆสถาบันทางการเงินนี่แหละ
แต่ไม่เหมือนนะ คำว่า Peer to Peer แปลตรงๆว่าการให้กู้ยืมเงินกันโดยตรง ระหว่างผู้กู้กับนักลงทุน
ถาม..แสดงว่าธุรกิจนี้มีแค่ผู้กู้กับนักลงทุน เหมือนยืมเงินเพื่อนใช่มั๊ย ตอบ..ไม่ใช่ เพราะมันมีตัวกลาง
ที่เป็นแพลตฟอร์มหรือซอฟต์แวร์ ทำหน้าที่จับคู่ระหว่างผู้กู้กับนักลงทุน
กลุ่มธุรกิจนี้เข้ามาแก้ปัญหา
1. ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ ดอกเบี้ยเงินกู้สูง หมายถึงดอกเบี้ยของสถาบันการเงินในปัจจุบันนะคะ
2. การเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก ซะเหลือเกิ้นนน
P2P Lending ทำหน้าที่แมชชิ่งระหว่างผู้กู้กับนักลงทุน
นักลงทุนนี้เปรียบเทียบได้กับคนฝากเงิน ส่วนผู้กู้คือใครก็ได้ที่ต้องการเงินทุน
ยกตัวอย่างเช่น คนทำธุรกิจ SMEหรือธุรกิจ Startupหรือจะเป็นประชาชนทั่วไปก็ได้
ด้วย P2P Lending ได้ใช้อินเตอร์เนตและซอฟแวร์ มีต้นทุนน้อย เพราะไม่จ้างคน หรือจ้างก็จำนวนน้อยมากๆ และไม่จำเป็นต้องใช้สถานที่ เมื่อเทียบกับสถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร ที่ต้องใช้ต้นทุนสูง ทั้ง
จ้างพนักงาน จ่ายภาษี ต้องมีสถานที่ ต้องมีระบบคอมพิวเตอร์
P2P Lending จึงได้เปรียบกว่าสถาบันการเงินปัจจุบัน จึงสามารถจ่ายดอกเบี้ยลงทุน
ในอัตราที่สูงกว่าสถาบันการเงินปัจจุบันมาก
ประโยชน์จาก P2P Lending
1. กลุ่มนักลงทุน จะได้ผลตอบแทนสูง ที่แน่ๆ สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเปิดโอกาสให้ใครก็ได้ที่มีเงินทุนเข้ามาลงทุน
นั่นหมายถึงโอกาสของตาสีตาสาที่ตั้งใจเก็บออมเงินจากการประกอบอาชีพอันสุจริต ก็จะลืมตาอ้าปากได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่า ส่วนเรื่องความเสี่ยงค่อยคุยกันเนอะ
2. กลุ่มผู้กู้ ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ได้โอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจ ขยายกิจการ
และสร้างนวัตกรรมใหม่ ซึ่งสำหรับประเทศไทยแล้ว ได้วางนโยบายให้เป็นประเทศไทย4.0
ว่าต้องขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ... แอ่ะๆ แต่ดูแล้วการสนองนโยบายจะช้าไปสักหน่อย ว่ามั๊ยคร้าาา
หากเทียบกับต่างประเทศที่เปิดให้ดำเนินธุรกิจแบบนี้มานานแล้ว
สรุปนะคะ P2P Lending เป็นฟินเทคที่จะเข้ามาตอบโจทย์ชีวิตและแก้ปัญหาด้านการเงินให้กับคนทั่วไปมากขึ้น
ข่าวดีค่ะ ประเทศไทยมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจนี้แล้วนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น